หลอดไฟฟ้า (Lamp)

  หลอดไฟฟ้า  (Lamp)  ทำหน้าที่ให้แสงสว่างสำหรับสถานที่ปฏิบัติงาน หรือที่อยู่อาศัย การติดตั้งระบบส่องสว่างควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ  ในการจัดแสง และสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งนั้นก็คือการเลือกประเภทและชนิดของหลอดไฟฟ้า  โดยปกติทั่วหลอดไฟฟ้าไปแบ่งออกได้เป็น 3  ประเภทคือ
9.1  หลอดไฟฟ้าชนิดมีไส้  (Filament  Lamp)  เป็นหลอดไฟฟ้าที่นิยมใช้ในรุ่นแรก ๆ หรือบางที่ก็เรียกว่าหลอดธรรมดา  องค์ประกอบของหลอดประกอบด้วย  หลอดแก้ว, ไส้หลอด, (ส่วนไส้หลอดทำจากทังสเตน) เส้นลวดที่ต่อเข้ากับขั้วหลอด,  ลวดยึดไส้หลอด,และก้านหลอดยึดไส้,  ปัจจุบันนิยมใช้ไม่มากนักเพราะให้กำลังส่องสว่างน้อยกว่าหลอดประเภทอื่น
ในกรณีกำลังวัตต์เท่ากัน  มีจำหน่วยในท้องตลาดมีหลายขนาด  เช่น  40วัตต์  60วัตต์  80วัตต์  100วัตต์ ฯลฯ  อายุการใช้งานประมาณ 1000 ชั่วโมง  หลอดประเภทนี้มีอยู่ 2 ลักษณะ คือชนิด แบบเขี้ยว และชนิดแบบเกลียว
    9.2   หลอดไฟฟ้าชนิดเรืองแสง (Fluorescent Lamp) หรือเรียกว่า หลอดฟลูออเรสเซนต์หลอดไฟฟ้าประเภทนี้มีประสิทธิภาพสูงกว่าหลอดไฟฟ้าธรรมดา ถึง 4 เท่า ให้แสงสว่างที่เย็นตามากกว่า รวมทั้งอุณหภูมิความร้อนที่เกิดขึ้นจากหลอดน้อยกว่า  ส่วนประกอบที่สำคัญของหลอดประกอบด้วย
  1)  ตัวหลอด
2)  ขั้วหลอด
  3)  ไส้หลอด
  4)  สารบรรจุภายในหลอด  เช่น อาร์กอน  และไอปรอท
หลอดไฟฟ้าชนิดฟลูออเรสเซนต์ที่จำหน่วยในท้องตลาด มีหลายลักษณะเช่น  หลอดฟลูออเรสเซนต์ ธรรมดา  หลอดฟลูออเรสเซนต์แบบวงกลม (32 วัตต์)  แบบยาวตรง (18,36 วัตต์)  และหลอดฟลูออเรสเซนต์ แบบคอมแพค (Compact)   หรือหลอดตะเกียบ
 9.3  หลอดไฟฟ้าชนิดอาศัยการอาร์ค  หรือหลอดไฟชนิดคายประจุ  หลอดประเภทนี้ใช้กระแสไฟฟ้ามากในการทำงานไม่นิยมใช้ในบ้านเรือนทั่วไป  ส่วนใหญ่จะใช้เฉพาะจุดหรือพื้นที่ต้องการแสงสว่างมาก ๆ  หลอดไฟฟ้าชนิดนี้มีหลายแบบ เช่น หลอดไอปรอท หลอดฮาโลเจน หลอดโซเดียม หรือหลอดแสงจันทร์
แสงสีของหลอด  สีมีอิทธิพลต่อความรู้สึกและอารมณ์ของมนุษย์  แสงที่ส่องกระทบวัตถุสามารถทำให้สีของวัตถุเปลี่ยนได้  ถ้าเลือกสีได้ถูกต้องจะทำให้มองสีของวัตถุไม่ผิดเพี้ยน  และยังช่วยเพิ่มบรรยากาศในการทำงานได้ด้วย  หลอดฟลูออเรสเซนต์จึงมีแสงสีต่าง ๆ  หลายสีเพื่อให้เลือกใช้ตรงกับต้องการของงาน
แสงที่เรียกว่า เดย์ไลท์(DAY  LIGHT) เป็นแสงที่มีสีใกล้เคียงกับสีของแสงแดด  ทำให้การมองเห็นวัตถุที่ส่องด้วยแสงเดย์ไลท์เหมือนกับที่มองตอนกลางวัน  ในบางประเทศที่ไม่ค่อยมีแสงแดดจะนิยมใช้หลอดชนิดนี้เพื่อให้ความรู้สึกว่ามี แสงแดด
               หลอดวอร์มไวท์   (WARM  WHITE)  สี ของแสงจะออกไปทางแดงปนเหลืองให้ความรู้สึกอบอุ่น  ในประเทศหนาวนิยมใช้สีนี้ในบางสถานที่  เช่น  ห้องนั่งเล่น  เพื่อให้ความรู้สึกอบอุ่น  ช่วยให้ลดความรู้สึกหนาวได้บ้าง  วัตถุที่ส่องด้วยแสงสีนี้จะมีสีเพี้ยนไปบ้าง
หลอดคูลไวท์   (COOL  WHITE)  สีของแสงอยู่ระหว่างหลอดเดย์ไลท์กับหลอดวอร์มไวท์  ให้สีที่ค่อนข้างเป็นธรรมชาติ  นิยมใช้งานทั่วไป  เหมาะที่จะใช้ในสถานที่ทำงานต่าง ๆ  และในห้างสรรพสินค้า
               หลอดแบล๊คไลท์   (BLACK  LIGHT)  เป็น หลอดที่มีหลอดเป็นแก้วสีดำ  ให้แสงที่ตามองไม่เห็น  แต่เมื่อไปกระทบกับวัตถุสีขาวจะสะท้อนแสงนวลสวยงามนิยมใช้ตามร้านอาหาร  ภัตตาคาร  และสถานที่ที่มีการแสดงในเวลากลางคืนหลอดชนิดนี้จะแผ่รังสีไวโอเลตในปริมาณ สูงซึ่งเป็นอันตรายต่อสายตาและผิวหนัง  จึงไม่ควรใช้เป็นเวลานาน ๆ
        10.  สตาร์ทเตอร์   ทำหน้าที่คล้ายเป็นสวิทช์ อัตโนมัติ  เพื่อเปิดและปิดวงจรของหลอด ฟลูออเรสเซนต์  เมื่อเริ่มต้นทำงานสตาร์ทเตอร์ทำหน้าที่เปิดวงจรเพื่ออุ่นไส้หลอดให้พร้อม ที่จะทำงาน  เมื่อไส้หลอดทำงานเรียบร้อยแล้วสตาร์ทเตอร์ก็ปิดวงจร
11.  บัลลาส   ทำหน้าที่แปลงแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะ สมกับหลอดซึ่งแรงดันไฟฟ้าในตอนเริ่มต้นจะสูงมาก  เพื่อจุดไส้หลอดให้ปลดปล่อยอิเลคตรอนออกมา  หลังจากหลอดทำงานแล้ว    บัลลาสจะเปลี่ยนหน้าที่โดยจะเป็นตัวจำกัดปริมาณของกระแสไฟฟ้าที่ไหลเข้าหลอด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น